วันที่ 1 ต.ค. 2566 พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า กลับถึงไทยแล้ว ขออนุญาตเรียนตามที่บอกไว้เรื่องทริปนี้ ส่วนเรื่องการถูกไล่ออกจากร้านอาหารที่ไอซ์แลนด์ ได้เป็นบททดสอบธรรมะในตน ทันทีที่ทราบว่าเขาเกลียดมากจนชี้หน้าด่า หมอกลับรู้สึกเฉยและมองไปข้างหลังและข้างหน้าของเขาที่จะเป็นเช่นไร ขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกคำแนะนำ แต่ขออนุญาตเลือกที่จะใช้ธรรมะจัดการมากกว่าใช้กฎหมายจัดการ

สรุปดราม่า "หมอพรทิพย์" เจอไล่กลางร้านอาหารในต่างประเทศ

มองต่างมุมกรณี "หมอพรทิพย์" เปิดข้อกฎหมาย ไม่มีสิทธิ์ ไล่ออกจากร้าน

ส่วนเรื่องการถ่ายภาพบนลาวามอส ก็ถือเป็นความผิดพลาดที่ไม่ได้ศึกษากฎระเบียบให้ชัดเจน ในบริเวณที่ลงถ่ายไม่มีป้ายจึงทำไม่ถูกระเบียบ แจ้งมาก็เพื่อให้รู้ว่าหมอผิดพลาดเอง และแก้ไขทันทีที่ทราบทันที จึงลบออกตั้งแต่ยังไม่กลับมา แต่ก็ไม่ทันสำหรับคนที่เกลียดชังนำไปขยายผล ขอบคุณอีกครั้ง

ขณะที่ โบว์ –ณัฏฐา นักเคลื่อนไหว ก็ออกมาให้กำลังใจหมอพรทิพย์ เธอโพสต์ว่า เมื่อสามเดือนก่อน โบว์เคยได้แลกเปลี่ยนพูดคุยสัมภาษณ์ พญ. คุณหญิงพรทิพย์ ในรายการทาง Ringsideการเมือง เมื่อได้เห็นคลิปเหตุการณ์คุณหมอถูกคุกคามที่เผยแพร่กัน จึงส่งข้อความไปให้กำลังใจ

คุณหมอฝากข้อมูลให้ได้รับทราบกัน ดังนี้ค่ะ

1คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. เราเป็นเพื่อนเที่ยวถ่ายรูปด้วยกันมานาน หมอเป็นยายกล้อง

2. ทุกปีจะมีทริปต่างประเทศด้วยกัน

3. ใช้เงินส่วนตัว

 "หมอพรทิพย์" เลือกใช้ธรรมะแทนกฎหมาย ปมดราม่าเดือด!

4. ปกติจะไปช่วงนี้เพราะปิดประชุมสภา ทริปนี้วางแผนมานานเป็นปี แต่บังเอิญปีนี้มีการเลือกตั้ง ทำให้ช่วงปิดประชุมสภาขยับออก

5. หมอและน้องสส.ต่างลาประชุม

6. ส่วนตัวไม่เคยถือสา ไม่โกรธ ไม่อยากให้มีประเด็นวุ่นวายอะไรอีก ไม่อยากต่อความขยายประเด็นฃ

ด้าร นายอดิศร เพียงเกษ ประธานวิปรัฐบาล และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ในทวิตเตอร์ ข้อความระบุว่า “กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา ใครทำอะไรไว้ ก็จะได้ผลกรรมนั้น แต่ความรุนแรง ไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างแน่นอน ยุคเหตุผล ไม่มีแล้วใช่ไหม เห็นใจ แต่ไม่เข้าใจ ครับ”

ล่าสุด ทีมข่าวพีพีทีวีต่อสายโทรศัพท์หา “นายอดิศร” ให้ช่วยขยายใจความข้อความที่โพสต์“นายอดิศร” อธิบายว่า เห็นใจ “หมอพรทิพย์” แต่ไม่เข้าใจบริบทของสังคม ณ ปี 2566 พัฒนาการมาถึงการทำแบบนี้ได้อย่างไร

ความจริงวันนี้สังคมไทยต้องเป็นสังคมที่มีเหตุมีผล ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใด จะเกลียดจะรักกันอย่างไรต้องอยู่ในกรอบของเหตุและผล ไม่ใช่ฟันต่อฟัน ตาต่อตา บางเรื่องยังไม่รู้ว่าเรื่องราวข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรแต่ต่อว่าต่อขานกันไปแล้ว จึงเห็นใจคนที่ถูกต่อว่า และเห็นใจคนที่คลั่งที่เก็บความแค้นไว้ในตัว แต่ไม่เข้าใจว่าเกิดเหตุเช่นนี้ได้อย่างไร

สังคมไม่ควรระเบิดมาถึงจุดที่ไร้ขอบเขต คำถามคือ เราจะดูแลจะแนะนำกันอย่างไร เราจะไปสู่สันติสุขกันอย่างไร

นายอดิศร อธิบายต่ออีกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นควรจับเข่าคุยกันว่าเป็นอย่างไร ว่าเกิดอะไรขึ้น การเอาอารมณ์ออกมาแบบนี้ผู้คนคงตกใจทั่วโลก สังคม 2566 มันฟรี ทำอะไรก็ได้ แต่อยากให้มองว่าประชาธิปไตยต้องมีวินัย ไม่ใช่จะทำอะไรก็ได้ การทำลักษณะนี้เป็นการดูหมิ่นเขาหรือไม่

แม้ว่าจะมีความแค้นเรื่องใดๆ ก็ตาม ทั้งเครื่องตรวจจับระเบิด GT200 เรื่องการแสดงออกทางการเมือง เรื่องการเป็น สว. ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง เลยเก็บความคลั่งแค้นนี้ไว้ แต่ไม่น่าจะระเบิดแบบนี้

By admin